โรตี ไหมจ๊ะนายจ๋า

โรตี เป็นอาหารหรือของหวานที่ทำจากแป้ง นวดแล้วทำให้เป็นแผ่นบางๆจากนั้นก็นำไปทอด ให้กรอบ คนไทยนิยมกินด้วยการราดด้วยนมข้นและน้ำตาล โรตี นั้นจริงๆแล้วหมายถึง ขนมปังหรือแป้ง ในไทยจะหมายถึงแป้งชนิที่เรียว่า ไมดา ปะระถา สำหรับภาษามาฐีและผุลกา จะเรียกว่า จปาตี ในคุชรตี เรียกว่า โรตลี่  ภาษามลายู เรียกว่า โรตี จะไน และในสิงคโปร เรียกว่า โรตีประตา

ซึ่งในแต่ภูมิภาคหรือประเทศจะกินโรตีในลักษณะที่แตกต่างกันไป เช่น ไทยก็จะเป็นการทอดและกินกับนมข้มและน้ำตาลเน้นเป็นของหวาน ทางแทบแขก อินเดียก็จะเป็นการกินร่วมกับมื้ออาหารเป็นของคาว ซึ่งปัจจุบันการทำโรตีมีมากมายหลากหลายรูปแบบ หลากหลายวิธี หลากหลายรสชาติ ซึ่งในประเทศของเรามีทั้งแบบอยู่น้านอาหารและที่มีขายถามรถเข็นข้างทาง โดยคนขายโรตีจะทำโรตีตามที่ลูกค้าสั่ง เมื่อก่อนนี้เวลาทอดเสร็จก็จะราดด้วยนมและโรยน้ำตาลห่อด้วยกระดาษแล้วม้วนเป็นแท่ง หรือบางทีถ้าสั่งแบบใส่กล้วยหรือใส่ไข่ คนขายก็มักจะตัดเป็นชิ้นๆใส่จานโฟมให้กับลูกค้า

ส่วนโรตีที่แบบที่นิยมกันก็คือ โรตี จปาตี จะเป็นโรตีที่นำเอาแป้งที่นวดจนเนียนแบ่งออกเป้นก้อน แล้วนวำไปทาบกระทะจนร้อนและกรอบ หรือบางทีก็จะนาบไว้ในโอ่งขนาดใหญ่ที่สุ่มไฟไว้จนร้อน เมื่อแป้งกรอบและฟูก็จรับประทานกับเครื่องเคียงประเภทแกงรสจัดตามสูตรของร้านหรือภูมิภาคนั้นๆ

โรตี นั้นถือว่าเป็นขนมหวานที่กินเพลิน กินอร่อย แต่อย่าลืมว่าส่วนประกอบของโรตีนั้นประกอบไปด้วย แป้ง นมและน้ำตาล เพราะฉะนั้นกินได้ แต่อย่ากินเยอะต้องคอยเตือนตัวเองกันไว้ว่ามันคือขนม กินแค่พออร่อยให้หายอยาก ไม่ใช่กินจนอิ่มนะคะ และวันนี้เราก็มีวิธีทำโรตีแบบง่ายๆมาฝากกันค่ะ

วัตถุดิบ

–  น้ำเปล่า         1 ถ้วย

–  น้ำตาลทราย    2 ช้อนชา

–   เกลือ      1  ช้อนชา

–  ไข่ไก่       1  ฟอง

–  นมข้นจืด     1  ถ้วย

–  เนย         1  ช้อนโต๊ะ

–  แป้งอเนกประสงค์     500 กรัม

 

วิธีทำ

  1. นำน้ำตาลทราย เกลือ ไข่ไก่และนมจืดผสมใส่ในน้ำเปล่าแล้วใช้ที่ตีไข่ตีให้ส่วนผสมเข้ากัน
  2. ผสมแป้งลาสีที่เตรียมไว้ลงไปนวดจนขึ้นฟู หลังจากนั้นให้ใส่เนยลงไป นวดจนเนื้อแป้งเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน และพักแป้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 2 ชม.
  3. เมื่อครบเวลาให้ทาเนยหรือมาการีนบนแป้งที่หมักทิ้งไว้อีกรอบและหยิบแป้งมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ
  4. ทำแป้งให้เป็นแผ่นบางๆ บางที่สุดเท่าที่สามารถทำได้และนำไปทอดในกระทะ ใส่เนยลงไปก่อนเพื่อความหอม และไฟปานกลางถึงแรง เมื่อกรอบสุกก็ตักขึ้นมารับประทาน โดยจะโรยนมหรือน้ำตาลก็ตามสะดวก หรือจะเคียงด้วยผลไม้ตามฤดูกาลที่ชอบก็ได้