ล้างผักและผลไม้อย่างไร ให้สะอาด

ทุกคนต่างรู้ดีว่าการทานผักและผลไม้สดๆนั้นเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะทั้งในผักและผลไม้นั้นมีทั้งวิตามินและเกลือแร่ หรือประโยชน์ทางโภชการอื่นๆอีกมากมาย แต่ในปัจจุบันการกินผักและผลไม้สดๆที่วางขายตามตลาดหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป ถ้าจะให้กล่าวตามความจริงก็คงจะบอกว่าเต็มไปด้วยสารพิษที่มาจากยาฆ่าแมลง หรือยากำจัดศัตรูพืชที่ปนเปื้อนมา จึงทำให้คนรับประทานหรือผู้บริโภคอย่างเรารู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะเราไม่สามารถที่จะมองเห็นสารพิษหรือสารตกค้างเหล่านี้ที่ติดมากับผักและผลไม้สดๆได้

และเราก็ไม่ทราบเลยว่าสารพิษที่ตกค้างมากับผักและผลไม้เหล่านี้จะมีสารอะไรหรือเชื้อโรคอะไรที่ปนเปื้อนมาบ้าง ถ้าเรากินผักและผลไม้ที่ปนเปื้อน บางทีเราก็จะมีอาการ ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน บางรายอาจถึงขั้นหน้ามืด หายใจไม่ออกหรือท้องเสีย ถ่ายท้องอย่างรุนแรง จนถึงขั้นหมดสติไปเลยก็มี ซึ่อาการเหล่านี้เวลาเราไปพบแพทย์ก็จะแจ้งว่า อาการอาหารเป็นพิษนั่นเอง ดังนั้นเราควรล้างผักและผลไม้สดให้สะอาดก่อนนำไปรับประทาน เพื่อความปลอดภัยและสุขลักษณอนามัยที่ดีของเรานั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจะมานำเสนอวิธีการล้างผักและผลไม้เพื่อเป็นการลดปริมาณของสารพิษที่ปนเปื้อนมาในผักและผลไม้สดของเรา

1.น้ำส้มสายชู

เตรียมน้ำส้มสายชูที่มีกรดน้ำส้มที่ความเข้มข้น 5% โดยให้เรานำน้ำเปล่ามาผสมในอัตราส่วน 1 : 10 ส่วน จากนั้นให้นำผักหรือผลไม้ที่เตรียมไว้มาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกรอบก่อนนำไปทำอาหารหรือรับประทาน โดยวิธีนี้จะช่วยลดสารพิษจากยาฆ่าแมลงหรือสารปนเปื้อนได้ประมาณ 60-80% โดยที่วิธีนี้ข้อเสียก็คือ ผักหรือผลไม้หลายชนิดจะมีกลิ่นของน้ำส้มสายชูหากรับประทานสดๆ หรือผักบางชนิดก็มีรสชาติที่เปลี่ยนไป เช่น ผักกาดขาว เป็นต้น

2.ด่างทับทิม

 

ให้เราใช้ด่างทับทิมประมาณ 25-30 เกล็ด โดยลักษณะของด่างทับทิมจะเป็นเกล็ดหรือผลึกสีม่วงและนำมาละลายน้ำได้ ให้ผสมด่างทับทิมกับน้ำประมาณ 4 ลิตร จากนั้นนำผักหรือผลไม้มาแช่ทิ้งไว้ในน้ำละลายด่างทับทิมประมาณ 10 นาที จากนั้นให้ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกรอบก่อนนำไปรับประทาน โดยวิธีนี้จะช่วยลดสารพิษจากยาฆ่าแมลงหรือสารปนเปื้อนได้ประมาณ 30-45% โดยที่วิธีนี้ข้อเสียก็คือ หากเราใช้ด่างทับทิมในปริมาณที่มากเกินไปก็จะเป็นอัตรายต่อทางเดินอาหารและหากเราสูดไอระเหยไปมากๆก็จะทำให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหาเหมือนกัน หรือถ้าเผลอทำให้ด่างทับทิมเข้าตาก็อาจจะถึงขั้นตาบอดเลยทีเดียว ดังนั้นหากจะใช้ด่างทับทิมก็ควรระวังอย่างมากไม่ใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไป

3.แช่น้ำ

 

ให้เราล้างผักหรือผลไม้ในรอบแรกให้สะอาดก่อน จากนั้นให้เด็ดผักออกเป็บใบๆและนำมาแช่ในอ่างน้ำที่เตรียมไว้ โดยที่เราจะต้องแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ก่อนนำไปรับประทาน โดยวิธีนี้จะช่วยลดสารพิษจากยาฆ่าแมลงหรือสารปนเปื้อนได้ประมาณ 7-35% โดยวิธีที่ข้อเสียก็คือ ใช้เวลานานหากเปรียบกับเวลาที่ใช้ และต้องเด็ดผักออกเป็นใบๆทำให้เสียเวลาเพิ่ม

 

 

 

4.น้ำไหลผ่าน

 

หากเป็นผักให้เราเด็ดผักออกเป็นใบๆและนำมาใส่ในตะแกรงหรือตะกร้าที่มีรูและเปิดน้ำแรงพอประมาณ โดยในระหว่างที่น้ำไหลผ่านให้เราช่วยคลี่ผักและใช้มือช่วยล้างไปบนผักหรือผลไม้ด้วยทำไปเรื่อยๆประมาณ 2-5 นาที โดยวิธีนี้จะช่วยลดสารพิษจากยาฆ่าแมลงหรือสารปนเปื้อนได้ประมาณ 25-65% โดยวิธีนี้เป็นที่นิยมกันอย่างมาก แต่ข้อเสียคือเปลืองน้ำเพราะต้องปล่อยน้ำทิ้งในปริมาณมาก