รักมันขม ขนมหวานกว่า

ขนม เป็นคำที่เล่ากันว่ามาจากที่นำคำสองคำที่มาผสมกันระหว่าง ข้าวหนม กับ ข้าวนม ซึ่งเป็นข้าวผสมน้ำตาลหรือน้ำอ้อย โดยคำว่าหนม แปลว่า หวาน ข้าวหนม จึงมีความหมายว่า ข้าวหวาน พอเรียกกันบ่อยๆ เรียกกันเร็วๆ ก็กลายเป็นคำว่า ขนม ไป และที่ว่ามาจากข้าวนมด้วยนั้นก็อาจจะเป็นตำนานตามพุทธโบราณ เช่น ข้าวมธุปายาส ที่นางสุชาดาทำถวายพระพุทธเจ้าก็เป็นข้าวหุงกับนม

อีกข้อหนึ่งก็มีกล่าวว่าคำว่า ขนม อาจมาจากคำในภาษาเขมรว่า หนม ที่หมายถึงอาหารที่ทำมาจากแป้ง และก็พบว่าขนมส่วนใหญ่ล้วนทำมาจากแป้งทั้งนั้น โดยอาจจะมีส่วนผสมเป็นน้ำตาลและกะทิ ดังนั้นคำว่า ขนม จึงอาจจะเพี้ยนมาจาก ขนม ในภาษาเขมรก็ได้

ดังนั้นคำว่า ขนม มีใช้มานาน อาจจะหลายร้อยปีแน่นอน และก็ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่า “ขนมไทย” เกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนเป็นครั้งแรก แต่ตามประวัติศาสตร์ไทยก็พอจะมีหลักฐานที่มีการจารึกชื่อขนมไว้บนศิลาจารึก ในสมัยพ่อขุนรามคำแหง ซึ่งชื่อของขนมที่อยู่บนศิลาจารึกก็คือ ไข่กบ นกปล่อย มะลิลอย อ้ายตื้อ ซึ่งขนมไข่กบ หมายถึง เม็ดแมงลัก / ขนมนกปล่อย หมายถึง ลอดช่อง / ขนมมะลิลอย หมายถึง ข้าวตอก / ขนมอ้ายตื้อ หมายถึง ข้าวเหนียว และขนมทั้งหมดมีส่วนผสมที่เหมือนกันอยู่หนึ่งอย่างก็คือ น้ำกะทิ

 

จนในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นยุคทองของการทำขนมไทย เพราะมีจดหมายเหตุของฝรั่งโบราณได้มีการบันทึกไว้ว่า การทำขนมในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนั้นเฟื่องฟูและนิยมทำกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่านผู้หญิงวิชาเยนทร์หรือในตอนหลังได้รับบรรดาศักดิ์ว่า ท้าวทองกีบม้า ได้เข้าไปเป็นต้นเครื่องขนมในวัง ได้สอนให้สาวชาววังทำขนมหวานต่าง ๆ และนำไข่ขาว ไข่แดงมาเป็นส่วนผสมสำคัญของขนมหวานที่ทำในไทย โดยเลียนแบบอย่างที่ทางชาวโปรตุเกสนิยมทำกัน ขนมที่ท้าวทองกีบม้าทำขึ้นนั้นเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น ขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมหม้อแกง ขนมไข่เต่า เป็นต้น

คนไทยสมัยก่อนไม่ได้กินขนมทุกวันหรือหาซื้อได้ง่ายแบบในสมัยนี้ เพราะจะได้กินหรือทำขึ้นมาก็ต่อเมื่อมีงานมงคล หรืองานบุญที่สำคัญเท่านั้น ขนมไทยที่เราทำกันหรือเคยกินกันส่วนมาจะมีส่วนผสมของน้ำกะทิ และในสมัยก่อน หากจจะต้องมีการทำเลี้ยงแขกในงานสำคัญเสมอ ก็คือ ขนมสี่ถ้วยตามที่กล่าวไว้ด้านบน ซึ่งก็คือ ขนมไข่กบ หมายถึง เม็ดแมงลัก ขนมนกปล่อย หมายถึง ลอดช่อง  ขนมมะลิลอย หมายถึง ข้าวตอก ขนมอ้ายตื้อ หมายถึง ข้าวเหนียว  ส่วนขนมอื่นๆ ก็มักใช้ในงานมงคลต่างๆ เช่น ขนมชั้น ขนมจ่ามงกุฎ ขนมกง ขนมปุยฝ้าย เป็นต้น